วิธีรักษาเครดิตทางการเงิน
การรักษาเครดิตให้ดีนั้นส่งผลดีต่อการขอสินเชื่อในอนาคต ดังนั้นควรรักษาประวัติทางการเงินให้ดีอยู่เสมอ เพราะประวัติเหล่านี้จะสะท้อนถึงพฤติกรรมการชำระเงินของตัวเรา ซึ่งการรักษาสถานะให้ดีอยู่เสมอสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้ 1.ตรวจเครดิตบูโรอย่างสม่ำเสมอ หลายๆคนคงสงสัยว่าทำไมถึงต้องตรวจเครดิตบูโร รายงานเครดิตบูโรคือประวัติการผ่อนชำระทางการเงิน ซึ่งจะแสดงข้อมูลการทำธุรกรรมของเราทั้งหมด จะทำให้เราเห็นว่าเราใช้บัตรเครดิตเยอะเกินไปหรือเปล่า หรือกู้มากเกินไปหรือเปล่า ซึ่งรายงานเครดิตบูโรสามารถขอได้ที่สถาบันข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือช่องทางต่างๆที่มีบริการ 2.ชำระเงินตรงตามเวลา การชำระคืนควรจ่ายไม่เกินวันที่ครบกำหนด และชำระยอดให้ตรงตามจำนวนที่ใช้จ่ายในใบแจ้งหนี้ ไม่ควรจ่ายน้อยกว่าขั้นต่ำ ดีที่สุดคือการจ่ายมากกว่าขั้นต่ำหรือจ่ายเต็มจำนวน ซึ่งหากเราเป็นไปได้แนะนำให้ตัดบัญชีอัตโนมัติเพื่อป้องกันการลืม ซึ่งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายจากการจ่ายล่าช้าตามมา 3.ยกเลิกสินเชื่อที่ไม่จำเป็น เมื่อเราตรวจเครดิตบูโรแล้วเราจะเห็นสินเชื่อที่เราเคยสมัครทุกบัญชี ซึ่งในบางครั้งเราจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยมี และอาจมาทราบที่หลังว่าบัญชีเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายรายปี ซึ่งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในภายหลังได้ และการยกเลิกสินเชื่อที่ไม่จำเป็น เป็นอีกวิธีที่จะป้องกันไม่ให้ใช้สินเชื่อเยอะเกินไปโดยไม่จำเป็น 4.ชำระหนี้ที่ยังค้างอยู่ การค้างชำระหนี้เป็นเวลานานทำให้เสียประวัติทางการเงิน ควรพยายามชำระหนี้ที่คงค้างอยู่เพื่อให้ธนาคารเห็นว่าเราไม่ได้ตั้งใจที่จะค้างชำระ หรือควรเข้าไปปรึกษากับธนาคารเพื่อแจ้งสาเหตุของการผิดนัดชำระ และหาทางออกเพื่อให้เราสามารถชำระหนี้คืนให้กับธนาคารได้ 5.การใช้สินเชื่อ/บัตรเครดิตอย่างมีสติ ทุกสินเชื่อย่อมมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป ดังนั้นควรศึกษาเงื่อนไขก่อนใช้บริการทุกครั้ง และควรมีวินัยในการจ่ายเงินคืนเมื่อใช้บริการทางการเงิน เพราะผลิตภัณฑ์เหล่ามีหากใช้ให้เป็นก็จะเป็นประโยชน์ หากใช้ไม่เป็นก็จะกลายเป็นโทษ ที่มา : https://www.firstchoice.co.th/th/blog/financial-literacy/ImproveCreditScore.html
เคล็ดลับความสำเร็จของการเป็นหัวหน้างาน
ให้ความเป็นกันเองกับลูกน้องเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ทำงานเพื่อเป้าหมายร่วมกัน โดยมองพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกับคุณ คิดว่าลูกน้องนั้นมีความสามารถ ฉลาด ทำอะไรได้ดี และมอบหมายงานที่ดี ทำให้พวกเขาเก่งขึ้นมาได้ จงรักษาเส้นแบ่งระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องเอาไว้ให้ดีด้วย งดใช้คำพูดหยาบคายกับลูกน้อง หลายคนคงเคยทำงานกับเจ้านายสมัยเก่า ที่เน้นการใช้คำพูดง่ายๆ หรือสั่งงานคุณ พวกเขาจะรู้สึกว่าคุณไม่ให้เกียรติ หรือต่อหน้ายิ้มรับ แต่ในใจต่อว่าก็เป็นได้ ซึ่งดูแล้วไม่เป็นมืออาชีพ ออกหน้ารับแทนลูกน้องในกรณีที่เกิดความผิดพลาดจากการทำงาน การออกหน้ารับผิดแทนลูกน้อง และวางแผนแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด คุณก็จะได้ความเชื่อมั่นจากลูกน้อง และรู้สึกปลื้มใจ ซาบซึ้ง ที่คุณช่วยพวกเขาแก้ปัญหา หลังจากนั้นค่อยเรียกลูกน้องมาคุยเพื่อติเตียนและร่วมกันหาหนทางแก้ไขปัญหา ช่วยลูกน้องแก้ปัญหาอย่างเป็นธรรม จงเตรียมพร้อมและเปิดใจรับฟังปัญหาจากลูกน้องอย่างทั่วถึงเสมอ และเป็นธรรม โดยนำเสนอวิธีแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จริงใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้รับการนับถือมากขึ้น แสดงการทำงานที่ถูกวิธีให้ลูกน้องเห็นเป็นตัวอย่าง งานหลายๆ
การปรับตัวเองเพื่อก้าวผ่านความทุกข์ยาก
เราสามารถที่จะเรียนรู้ในการช่วยเหลือตัวเองให้ก้าวข้ามผ่านออกจากความทุกข์ยากนั้น โดยการปรับวิธีคิดและวิธีการที่เราจะสามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการเผชิญกับความทุกข์ยากที่เกิดขึ้น ทางจิตใจที่ทุกคนมีอยู่แต่อาจมีมากไม่เท่ากัน โดยการพัฒนาให้มีมากขึ้น ด้วยการปรับตัวเองดังต่อไปนี้ การปรับความคิด ยอมรับความจริงว่าความทุกข์ยาก เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราที่ต้องมีการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดอยู่ทุกหนแห่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ความตาย การสูญเสียและ เหตุการณ์ร้ายแรง โดยเราสามารถ จัดการกับความคิดอัตโนมัติ เราควรปล่อยวางความคิดอัตโนมัติด้านลบเหล่านี้ โดยการฝึกสติสังเกตรับรู้ลมหายใจที่ปลายจมูก เพื่อให้มีสติจดจ่ออยู่กับลมหายใจของเรา ถ้าใจเผลอไปคิดเรื่องอื่นก็ดึงกลับมารับรู้ลมหายใจใหม่ หรือฝึกสติรับรู้ว่ากายกำลังทำอะไร วิ่ง ยืน เดิน นั่ง หกล้ม ทำไปเรื่อยๆไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ จนรู้สึกว่าหลุดออกจากการหมกมุ่น ครุ่นคิดในเรื่องเดิมๆและรู้สึกผ่อนคลาย การฝึกดังกล่าวถือเป็นการฝึกกล้ามเนื้อแห่งการปล่อยวาง เพื่อช่วยให้เราหลุดออกจากวงจรของความคิดลบ การหมั่นฝึกฝนเป็นประจำจะช่วยให้เรามีทางเลือกในการออกจากความคิดลบได้ทุกขณะเมื่อเราต้องการ รวมถึงการมองโลกในแง่ดี จะช่วยให้เราจัดการกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดีขึ้น ช่วยลดผลกระทบของความเครียดต่อสุขภาพกาย ทำให้เรายอมรับความเป็นจริงได้เร็วขึ้น การปรับอารมณ์ พูดระบายความรู้สึกทุกข์ใจออกมา อย่าพยายามเก็บกด โดยเราหาใครสักคน เช่น เพื่อน
7 วิธีสร้างสติ ให้การงานก้าวหน้า
ทำสมาธิ ก่อนเริ่มงานทุกวัน สิ่งแรกที่ควรทำคือ หาเวลาสัก 5 นาทีเพื่อทำใจให้สงบ จากนั้นตั้งจิตให้มั่นแล้วนึกถึงธรรมะที่ต้องการน้อมมาปฏิบัติ เช่น วันนี้ต้องตั้งใจทำงานด้วยความเพียรและทำงานให้ดีเยี่ยมไม่ให้ผิดพลาด การตั้งจิตอธิษฐานไม่ได้หมายถึงการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อช่วยให้ทำงานสำเร็จ แต่เป็นการเตือนใจหรือสติไม่ให้พลัดหลงไปตามอารมณ์ และความเร่งรีบ วุ่นวาย ที่จะมาบั่นทอนจิตใจการทำงานนั่นเอง มีสติตลอด เวลาทำงานคือทำงาน การทำงานไม่ว่าอาชีพไหนก็สามารถเจริญสติขณะทำงานได้เช่นกัน เพราะการเจริญสติในที่ทำงานหมายถึงการดึงจิตใจให้อยู่กับงาน รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆ นั่งก็รู้ว่านั่ง ยืนก็รู้ว่ากำลังยืน คิดเรื่องอะไรก็ใช้สติอยู่กับเรื่องนั้นๆโดยไม่กังวลกับอดีตที่ผ่านมา หรือกังวลอยู่กับอนาคตที่ยังไม่ถึง ข้อดีของการเจริญสติตลอดเวลาที่ทำงานนั้น นอกจากจะทำให้งานสำเร็จแล้ว ยังทำให้ทำงานด้วยความผ่อนคลายโปร่งเบา เพราะจิตใจไม่เป็นขยะให้ต้องแบกรับ หรือการปล่อยวางได้ เปิดใจกว้างรับฟังคำวิจารณ์ การทำงานกับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งที่คู่กัน แต่หลายคนมักสติหลุดเพียงเพราะถูกวิพากวิจารณ์ ดังนั้นสิ่งที่ต้องท่องให้ขึ้นใจ คือ เราเอาปัญญาออกหน้า มักจะเกิดคำถามในใจว่าฉันผิดพลาดตรงไหน
6 เป้าหมายเพื่อการลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้
ความปลอดภัยของเงินลงทุน การรักษาเงินทุนเริ่มแรกให้คงไว้ หรือการป้องกันความเสี่ยงซึ่งเกิดจากอำนาจซื้อที่ลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ การลงทุนรูปแบนี้มีการกำหนดระยะเวลาคืนเงินต้นจำนวนแน่นอน เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ และหุ้นบุริมสิทธิที่มี กำหนดระยะเวลาไถ่ถอนของบริษัทที่มั่นคง เสถียรภาพของรายได้ ลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ได้รายได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล ส่วนต่างกำไร หุ้น ผู้ลงทุนสามารถทำแผนการใช้เงินทุนได้ว่าจะนำรายได้ไปใช้ เพื่อการบริโภคหรือเพื่อลงทุนใหม่ นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยหรือเงินปันผลที่ได้รับเป็นประจำย่อมมีค่า มากกว่าดอกเบี้ยหรือเงินปันผลที่เขาสัญญาว่าจะให้ในอนาคตซึ่งยังไม่แน่ว่าจะได้ตามที่สัญญาหรือไม่ ความงอกเงยของเงินลงทุน การนำรายได้ที่ได้รับไปลงทุนใหม่ก่อให้เกิดความงอกเงยของเงินทุน โดยผู้ลงทุนส่วนมากจะเพิ่มมูลค่าของเงินลงทุนของเขาโดยการนำดอกเบี้ยและเงินปันผลที่ได้รับไปลงทุนใหม่ ความงอกเงยของเงินทุนนี้ให้ประโยชน์แก่ผู้ลงทุนในด้านการเงินเพื่อปรับฐานะผู้ลงทุน ในระยะยาวให้ดีขึ้น รักษาอำนาจซื้อให้คงไว้และให้การจัดการคล่องตัวดีขึ้น ความคล่องตัวในการซื้อขาย สามารถซื้อหรือขายได้ง่ายและรวดเร็ว ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับราคาขนาดของตลาดหลักทรัพย์ที่หุ้นนั้นจดทะเบียน ขนาดของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ จำนวนผู้ถือหุ้น และความสนใจที่ประชาชนทั่วไปมีต่อหุ้น โดยหุ้นที่มีราคาสูงมักจะขายได้ยากกว่าหุ้นที่มีราคาต่ำกว่า หุ้นของบริษัทใหญ่จำหน่ายได้ยากกว่าหุ้นของบริษัทเล็ก ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทใหญ่มีหุ้นออกจำหน่ายจำนวนมาก ทำให้การซื้อขายดำเนินการต่อเนื่องกันตลอดเวลา
5 วิธีเด็ดเปลี่ยนนิสัยขี้หงุดหงิด ทำแล้วดีชัวร์
นอนหลับให้เพียงพอ ถ้ายิ่งนอนไม่เพียงพอติดต่อกัน เป็นเวลานาน ก็จะยิ่งทำให้หงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม จะเปลี่ยนนิสัยให้คุณกลายเป็นคนขี้หงุดหงิดได้มาก ดังนั้นถ้าไม่อยากเป็นคนขี้หงุดหงิด แค่เพียงนอนหลับไปให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน และติดต่อกันด้วย ซึ่งการหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดคืนก็ทำให้คุณนอนไม่เต็มอิ่มและหงุดหงิดได้เช่นกัน ผ่อนคลายลงลดความเครียด ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเกิดจากปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาทับถม แทนที่คุณจะไปเคร่งเครียดกับมันจนหัวระเบิด คุณก็แค่ทำใจให้เย็นลองแล้วหันกลับไปมองปัญหา มีอะไรบ้าง และปัญหาใดที่คุณสามารถแก้ไขได้ ปัญหาใดที่คุณต้องยอมรับและร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นบ้าง อย่าโทษตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ให้บอกกับตัวเองว่าคุณได้ทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้แล้ว เมื่อคุณสามารถใจเย็นลงได้ อาการหงุดหงิดของคุณก็จะลดลงตามไปด้วย ดูแลภาพลักษณ์ให้ดีกว่าเดิม ดูแลตัวเองให้ดูดี ไม่โทรมจนเกินไป โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายให้มากขึ้น ก็จะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงบุคลิกและภาพลักษณ์ตัวเองก็สามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองได้อีกด้วย และเมื่อคุณชอบตัวเองมากขึ้น นิสัยขี้หงุดหงิด
5 เทคนิคการจำแบบขั้นเทพ
มีความชัดเจน (focus) โฟกัสสิ่งที่ต้องการจดจำให้ชัดเจนว่าคืออะไร มีความโดดเด่นตรงไหน สีอะไร รูปทรงเลขาคณิตอะไร ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดที่สำคัญที่สุดที่ทำให้พลังของการจดจำมีประสิทธิภาพมากที่สุด มีการบันทึก (files) ทุกคนจำเป็นต้องบริหารจัดการความทรงจำ จากการที่หาความชัดเจนหรือความจำแรกแล้ว กระบวนการต่อมา คือการจัดเก็บข้อมูลไว้ในตู้เก็บไฟล์แห่งความทรงจำหรือไว้ในส่วนสมอง อย่างมีระบบและมีระเบียบ ควรแยกสมองฝั่งซีกซ้าย ทำหน้าที่ ด้านความคิด ด้านตรรกะ การวิเคราะห์ การจัดเรียงลำดับ การใช้ภาษา การปฎิบัติงานทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และสมองซีกขวา ทำหน้าที่ การคิดสร้างสรรค์ ความสุนทรียภาพ และการใช้สัญชาตญาณ เพื่อเวลาเรียกใช้จะได้ง่ายขึ้น ภาษาภาพ (pictures) เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ เราจำเป็นต้องจินตนาการสิ่งที่ต้องการจำให้เป็นภาพที่ง่ายหรือคุ้นเคย หรือภาพที่สะดุดตา หรือภาพอะไรก็ตาม ที่ต้องการจดจำจะต้องแปลงสิ่งนั้น ให้อยู่ในรูปแบบของภาษาภาพเสมอ
5 ความคิดทางการเงินที่ดีเพื่อความสำเร็จ
ความคิดที่ดีทางการเงิน คือ การใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดในการประหยัดเงินและการลงทุน การพัฒนาความคิดด้านการเงิน ช่วยให้สามารถมีสติ เพื่อสร้างและพัฒนาทักษะการบริหารจัดการทางการเงินให้ประสบความสำเร็จ 1.ความคิดทางการเงินไม่ดี ก็ไม่มีเงิน ควรมีพัฒนาความคิดและความรู้ตลอดเวลา การขาดความคิดทางการเงินอาจเป็นสาเหตุของความล้มเหลว ในการเริ่มต้นชีวิตได้ ควรสร้างความคิดทางการเงินที่ดีต่อสุขภาพการเงินก่อน ให้มีความมั่นคงในการดำเนินการบางอย่าง เพื่อพัฒนากรอบความคิดทางการเงินที่ดีต่อไป 2.ศึกษาหาความรู้หลักสูตรทางการเงิน การหาความรู้จากหนังสือทางการเงินประกอบหลักแนวคิด เกี่ยวกับทางการเงิน ทักษะพื้นฐานทางการเงินและปัจจัยทางจิตวิทยา มันส่งผลให้พฤติกรรมทางการเงินที่ดี รวมถึงการเรียนรู้จากประสบการณ์ ช่วยสร้างความคิดทางการเงินได้ หรือการเรียนหลักสูตรทางการเงินเพิ่ม สามารถช่วย ในการพัฒนาความคิด และมีความเข้าใจมากขึ้น เช่น การหารายได้เพิ่มจากการวางแผนทางการเงิน หรือรายได้เพิ่มจากการลงทุน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงิน 3.ปรึกษาและขอคำแนะนำผู้รู้ แนวทางในการพัฒนาความคิดทางการเงินของคุณ อาจจะอาศัยประสบการณ์ทางการเงินที่หลากหลาย ในการหาที่ปรึกษา ทางการเงิน กับ กลุ่มกูรูทางการเงิน อาจารย์ เพื่อน ญาติและคนรู้จัก มุ่งเน้นไปที่คนที่คุณรู้ว่าใครประสบความสำเร็จทางการเงินโดยขอคำแนะนำจากพวกเขา อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี นอกจากนั้นยังศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มุ่งเน้นไปที่การศึกษาทางการเงิน
4 สาเหตุที่ควรลงทุน
การลงทุนอาจฟังดูเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับใครหลายๆคน หรือเหมาะสำหรับคนที่รวยแล้วเท่านั้น แต่จริงๆแล้วการลงทุนสามารถเริ่มจากเงินจำนวนน้อยๆได้ และในบทความนี้จะมาบอกถึง 3 ข้อดีว่าทำไมถึงควรลงทุน ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อทุกปี เงินเฟ้อเป็นสิ่งที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็กจนโต ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายคือเมื่อ 20 ปีที่แล้วราคาอาหารจานละ 10-20 บาท แต่ในราคาเพิ่มขึ้นเป็น 60-70 บาท ในปริมาณของอาหารที่เท่าเดิมหรืออาจน้อยลง นั่นคือมูลค่าของเงินที่เมื่อเวลาผ่านไปจะมีมูลค่าลดลง ทำให้เงินเท่าเดิมแต่ซื้อของได้น้อยลง ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้หนทางที่จะทำให้มูลค่าเงินในปัจจุบันเทียบเท่าหรือสูงกว่าเงินในอนาคตก็คือการลงทุนนั่นเอง รายได้เพิ่มไม่ทันราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทำให้ราคาสินค้า และบริการเพิ่มขึ้น แต่เงินเดือนหรือรายได้เราอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นไปด้วย หรืออาจเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าราคาสินค้าอยูดี นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เราควรลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าของเงิน ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ การฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่อย่างที่ทราบกันว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากนั้นมีอัตราที่ต่ำมาก จึงไม่แนะนำหากจะเก็บเงินไว้ในบัญชีเงินฝากที่เดียว ควรกระจายการลงทุนไปในผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ สามารถฝากเงินส่วนหนึ่งไว้ในออมทรัพย์ได้ และแบ่งสัดส่วนของเงินมาลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆด้วย ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีทางเลือกในการลงทุนมากมาย เช่น ตราสารหนี้ กองทุน หุ้น และอื่นๆ 4.การลงทุนทำให้เป็นอิสระภาพทางการเงินเร็วขึ้น การลงทุนทำให้เราบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น ยกตัวอย่างการวางแผนเกษียณ เช่น เราต้องมีเงินจำนวน 5,000,000