วัฎจักรชีวิตทางการเงิน
เรื่องความมั่นคงทางการเงินของคนไทยจะเกิดขึ้นได้ต้องปลูกฝัง ดังนั้นเราต้องเรียนรู้วินัย ทางการเงินในทุกช่วงวัย เพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงิน วัยเด็ก - บ่มเพาะนิสัยใช้จ่ายเงิน รู้จักคุณค่าของเงิน เริ่มต้นเก็บออม ช่วงวัยเด็ก เป็นวัยแห่งการเริ่มต้นศึกษาหาความรู้ จึงเป็นวัยที่เหมาะสมกับการบ่มเพาะนิสัยใช้ จ่ายเงิน สอนให้รู้จักคุณค่าของเงิน สอนให้เริ่มต้นเก็บออม และเริ่มต้นศึกษาวิธีการต่อยอดด้วยการ ลงทุน วัยทำงาน - ออม 1 ใน 4 และภาระหนี้ไม่เกิน 1 ใน 3 ของรายได้ ช่วงวัยทำงานควรออม 3–6 เท่าของรายจ่ายจำเป็นต่อเดือน เป็นช่วงเวลาแห่งการหารายได้ ดังนั้นในช่วงต้นของการทำงานควรออมเงิน 1 ใน 4 ของรายได้ และวางแผนเกษียณตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน เมื่อมีความจำเป็นที่ต้องสร้างภาระหนี้ ควรมีภาระผ่อนหนี้ไม่เกิน 1 ใน 3 ของรายได้
อาการหนี้ขั้นวิกฤต คุณเป็นครบหรือยัง ?
1.จ่ายหนี้มากกว่า 45% ของรายได้ - ควักเงินจ่ายหนี้มากกว่า 45 % ของรายได้ โดยที่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายประจำอื่น ๆ ที่เป็นรายจ่ายคงที่ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ยกตัวอย่างง่าย ๆ มีเงิน 100 บาท จ่ายหนี้ 45 บาท เมื่อหักลบค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ คงไม่เหลือเงินค่ากินให้พอครบเดือน 2. กดบัตรโน้นโปะบัตรนี้ หนี้พอกพูน - สร้างหนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่าวนเวียนไม่จบแถมดอกเบี้ยเพิ่มพูนไม่หยุด คนส่วนใหญ่ไม่คิดถึงวิธีการเพิ่มรายได้ แต่จะคิดถึงการ “กู้หนี้เพิ่ม” เช่น หยิบยืมเงินจากญาติหรือคนรู้จักมาใช้หนี้ กู้ธนาคาร หรือร้ายแรงที่สุด คือการกู้เงินนอกระบบที่ดอกเบี้ยแสนโหดสุด ๆ 3.หวาดผวาเสียงโทรศัพท์
ปก-ข้อดี “บัตรเครดิต” มีไว้..ใช้เป็น คือ ดี
ดีสุด ! บุคลิกไม่เสีย ไม่ต้องพกเงินเยอะ ๆ ให้กระเป๋าตุงข้อดีเรื่องแรก คือ บัตรเครดิตทำให้เราไม่ต้องพกเงินเยอะ ๆ ติดตัว ไม่ต้องเสี่ยงเงินหายหรือโดนฉก ชิงวิ่งราว พกเพียงบัตรเครดิตใบเดียว ไม่ต้องกังวลว่าเงินไม่พอจ่าย ถ้าไปเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจที่ ต่างประเทศไม่ต้องแลกเงินสดในสกุลเงินของประเทศนั้น ๆ เจ๋งสุด ! มีระยะปลอดดอกเบี้ย 45 วัน และรูดซื้อสินค้า 0%ข้อดีเรื่องสอง คือ สามารถรูดบัตรเครดิตเพื่อชำระสินค้าหรือบริการไปก่อนได้ โดยมีระยะเวลา ปลอดดอกเบี้ย 45 วัน เมื่อถึงกำหนดชำระเมื่อจ่ายเงินครบก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย รวมทั้งบัตรเครดิต มีโปรโมชั่นผ่อน 0% หากตั้งใจซื้อสินค้าชิ้นนั้นอยู่แล้วก็จะทำให้เราไม่ต้องจ่ายเงินก่อนเพื่อชำระค่าสินค้าในครั้งเดียว สะดวกสุด! บิลค่าน้ำ ค่าไฟ ชำระง่าย
อยากหมดหนี้ มีเงินเก็บ
มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ต้องรู้จักการทำบัญชีรับ-จ่ายล่วงหน้า 6-12 เดือน หมดหนี้มีเงินออม ใช้เงินให้น้อยกว่าที่หาได้ สร้างทรัพย์สินมีความมั่นคั่ง ดาวน์โหลดเลยจ้าแจกฟรี !! ไฟล์ทำงบแก้หนี้ คลิก..(ลิงก์) Link Excel : https://1drv.ms/x/s!Anbtsc3QXC8ggYwG5Lhursge3MnMXw?e=IYrJdU Link PDF (สำหรับเขียน) : https://1drv.ms/b/s!Anbtsc3QXC8ggYwkBvMPq_yBScGNEg?e=pQoetL ปีใหม่นี้ เราอยากเห็นทุกคนหมดหนี้ แจกไฟล์
“โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ชวนชนะหนี้เสียสารพัดบัตร พบกันวันหยุดนัดแรก 20-21 มี.ค.นี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ
“โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” จัดงาน “พบกันวันหยุดกับคลินิกแก้หนี้ by SAM” เพื่อให้คำปรึกษาและรับสมัครผู้ที่มีปัญหาหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันกับธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank) รวม 35 แห่ง เข้าร่วมโครงการฯ ในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 20-21 และ 27-28 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 8.30-17.00 น. ณ สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ใกล้ BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางออก 4) กรุงเทพฯ ผู้ที่เป็นหนี้เสียบัตรดังกล่าวไม่ควรพลาด เพราะนอกจากเป็นการเปิดบริการพิเศษเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ในเดือนมีนาคมแล้ว ผู้ที่มาร่วมงานยังได้รับอีคูปองตรวจเครดิตบูโรแบบรู้ผลทันที ฟรี!
“คลินิกแก้หนี้ by SAM” เปิดตัว “สายด่วน ชนะหนี้ 1443” ช่วยคนเป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคล
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เปิดเบอร์ใหม่ “สายด่วน ชนะหนี้ 1443” เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีปัญหาหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันกับธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank) รวม 35 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้สามารถติดต่อเข้ามาปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ของ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ เนื่องจากในรอบปี 2563 ที่ผ่านมา มีผู้สนใจติดต่อสอบถามผ่านระบบ Call Center นับแสนราย ดังนั้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าหรือผู้ที่มีปัญหาหนี้เสียบัตรที่คาดว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างน้อยอีกหลายเท่าตัวในปี
“คลินิกแก้หนี้ by SAM” รับลูก ธปท. ปรับเกณฑ์ใหม่ให้โอกาสกลุ่มคนเป็นหนี้เสียก่อน 1 ก.พ. 64 คาดเก็บตกกลุ่มพลาดโอกาสในรอบก่อนและลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบช่วงโควิด-19
นางปนุท ณ เชียงใหม่ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ขานรับนโยบายล่าสุดจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เดินหน้าช่วยประชาชนที่เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank) จำนวน 35 แห่ง อย่างต่อเนื่อง โดยขยายเวลาการเป็นหนี้เสีย จาก เดิม วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็น ก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งคาดว่าจะช่วยผู้เป็นหนี้กลุ่มดังกล่าวที่ค้างชำระและเป็นหนี้ NPL ได้อย่างครอบคลุมมากขึ้นและทันท่วงที โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่พลาดโอกาสหรือยังไม่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการเนื่องจากคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ที่
“คลินิกแก้หนี้ by SAM” ให้การต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
“โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ได้รับเกียรติจาก คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เยี่ยมชมบูธ “คลินิกแก้หนี้” ในงาน ก้าวสู่ปีที่ 2 “สังคมสมานฉันท์ สร้างวัฒนธรรมการไกล่เกลี่ย” งานวิชาการเนื่องในวันครบรอบ 2 ปี ของพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 จัดโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ณ โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
SAM บริจาคคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ให้แก่มูลนิธิพระดาบส
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM บริจาคเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 94 รายการ ให้แก่มูลนิธิพระดาบสเพื่อประโยชน์ในด้านการศึกษา โดยใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนแก่นักเรียนในโรงเรียนพระดาบสและเพื่อการดำเนินงานของมูลนิธิฯ โดยมี นางสาวพิรญาณ์ อสุณี ณ อยุธยา ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิฯ เป็นผู้แทนรับมอบ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ณ สำนักงานใหญ่ของ SAM อาคารซันทาวเวอร์ส เอ
คลินิกแก้หนี้ by SAM ติวพิเศษ วิชาแนะหนี้ฯ ที่ รร.พระดาบส
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM โดยผู้บริหารและทีมวิทยากรโครงการ “คลินิกแก้หนี้ by SAM” จัดกิจกรรมให้ความรู้ทางการเงิน “คลินิกแก้หนี้อะคาเดมี่ เปิดติวพิเศษวิชา แนะหนี้ การเงินดี๊ดี ชีวีสดใส” แก่นักเรียนโรงเรียนพระดาบส จำนวน 100 คน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ด้านการวางแผนการเงิน การออม และสามารถนำความรู้ไปแบ่งปันแก่คนในครอบครัวและสังคมรอบข้างให้มีวินัยทางการเงินที่ดี โดยมีคุณอัครเดช ชูจิตต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส พร้อมคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ และบุคลากร ให้การต้อนรับ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 ณ โรงเรียนพระดาบส ถ.สามเสน กรุงเทพฯ