
หนีห่างหนี้นอกระบบ เพื่อชีวิตที่ดี
การวางแผนการเงิน เป้าหมายแรกที่ควรจะมี คือ เงินออมเผื่อฉุกเฉิน โดยตามปกติควรจะมี 6-12 เท่า ของค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแต่ละเดือน พราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อาจจะส่งผลทำให้การบริหารการเงินไม่เพียงพอและหาเงินมาใช้ให้เร็วที่สุดและง่ายที่สุด และหันไปพบกับเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบที่มีหลากหลายรูปแบบ เช่น
- คนใกล้ตัว ที่ทำงาน หรือเครือญาติของลูกหนี้ เจ้าหนี้คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือไม่คิดดอกเบี้ยเลย หรือคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 10 ต่อปี ไม่มีการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนและเงินกู้ไม่สูงมากนัก แต่ในกรณีเงินกู้สูงต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น โฉนดที่ดิน รถยนต์ ทองคำ เป็นต้น
- นายทุนเงินกู้ในพื้นที่และนอกพื้นที่ เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ตั้งแต่ร้อยละ 10-30 ต่อเดือน โดยจะมีทั้งในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ ในกรณีที่กู้ยืมวงเงินไม่มากนัก อาจจะใช้บุคคลค้ำประกัน ซึ่งมักมีปัญหาในเรื่อง ดอกลอย คือชำระแต่ดอกเบี้ย และหากผิดนัดชำระหนี้ ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยทบต้นทบดอก ส่งผลให้ยอดหนี้สูงขึ้น แต่ในกรณีที่วงเงินสูง มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน จำนองทรัพย์สิน ทำสัญญาเงินกู้ เมื่อลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ส่งผลทำให้ทรัพย์สินเปลี่ยนมือ หรือถูกยึดทรัพย์ได้
- แขกเงินกู้ เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 20-25 ต่อเดือน เริ่มจากป็นแขกขายสินค้าผ่อนสินค้าตามบ้าน และปล่อยให้กู้ยืมเงินเฉพาะคนที่ไว้วางใจหรือที่รู้จัก แต่แขกให้กู้ยืมเงินมีความเป็นมิตรกับลูกหนี้มากกว่าโดยเฉพาะในกรณีลูกหนี้ผิดนัด ก็ค่อยๆตามเก็บให้ครบ เนื่องจากพูดภาษาไทยไม่ได้หรือพูดไม่ค่อยคล่อง
- นายทุนที่ปล่อยกู้ในตลาด เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 10-25 ต่อเดือน กลุ่มนี้จะมีการรวมตัวเป็นกลุ่มแม่ค้าที่ปล่อยกู้เงินภายในตลาด ซึ่งจะมีทั้งระบบการให้เงินกู้และการให้ออม การเล่นแชร์ กรณีนี้พบในตลาดสด หรือตลาดในเขต หรือตลาดในจังหวัดต่างๆ ซึ่งตามปกติมักจะเงินได้ครบเนื่องจากขายของอยู่ในตลาดและเจอหน้ากันทุกวัน
- เจ้าของสินค้าหรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ เจ้าหนี้คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3-10 ต่อเดือน สินค้ากลุ่มการเกษตรหรือ กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง เมล็ดพันธุ์ รถไถ เครื่องจักร ที่ดิน ผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยผู้กู้เงินจะกู้เพื่อซื้อสินค้าเป็นเงินเชื่อก่อน และเมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตหรือขายสินค้าได้ ก็จะมาชำระเงินกู้และดอกเบี้ยคืนเจ้าหนี้ ซึ่งถ้าประสบปัญหา ก็อาจจะส่งผลให้เป็นหนี้มากขึ้น หรือโดนกดราคาผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์หมดอายุได้
ทุกคนควรมีการวางแผนการเงิน หรือการบริหารการเงิน ให้เหมาะสม และควรมีเงินออมเผื่อฉุกเฉิน และการออมเงิน ที่เนิ่นๆ และควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในการกู้เงินในระบบ และจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อจะได้เงินกู้ในระบบซึ่งดอกเบี้ยไม่สูงมากนัก และมีระยะเวลาที่เหมาะสม มาหมุนเวียนได้ทันท่วงที และไม่ต้องอาศัยเงินกู้นอกระบบ ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูง เพื่อชีวิตที่ปลอดภัยและชีวิตที่ดีกว่านั่นเอง
ที่มา : https://cusri.chula.ac.th/backup/download/cluster6.pdf/ วันที่สืบค้น 3 ธ.ค. 2567
หนี้นอกระบบกับความเป็นธรรมทางสังคม : สุรางค์รัตน์ จำเนียรพล สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย