
ผิดนัดชำระหนี้สักครั้ง จะเกิดอะไรบ้าง
หากใครที่ใช้เงินในอนาคตมาหมุนเวียน และเกิดหมุนเงินไม่ทัน รายจ่ายเพิ่มขึ้น จนเกิดเป็นหนี้สิน และเคยคิดบ้างไหมว่า หากเราผิดนัดชำระหนี้กับเจ้าหนี้ จะเกิดผลกระทบอะไรกับเราบ้าง และแก้ปัญหาหนี้เสียยังไงดี มาดูกัน
- เกิดค่าติดตามทวงถามหนี้ หากไม่ได้จ่ายหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด จะมีคนติดต่อเราทันที เพื่อโทรมาติดตามทวงถามหนี้ที่เรายังไม่ได้ชำระหนี้นั้น หากเรายังไม่ได้จ่ายอีก ก็จะโทรมาอีก โดยการโทรทุกครั้งของเจ้าหนี้นั้นไม่ได้โทรฟรีๆ แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม คือค่าติดตามทวงถามหนี้ ซึ่งจะถูกทบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการชำระหนี้นั่นเอง
- เกิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระ โดยปกติ หนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลไม่มีดอกเบี้ย แต่ในกรณีที่มีการผิดนัดชำระหนี้ทั้งบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล จะมีดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายเพิ่มเติม เป็นค่าปรับที่ไม่ได้ชำระหนี้ในระยะเวลาที่กำหนด
- เกิดผลเสียต่อประวัติและเครดิตทางการเงินที่ไม่ดี หากเราไปทำธุรกรรมทางการเงินใด ๆ ตามปกติเจ้าหนี้จะทำการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการพิจารณาตามที่กำหนดไว้
- เกิดการถูกฟ้องร้อง หากเรามีการค้างชำระหนี้เป็นระยะเวลานานเกินกว่าเวลาที่กำหนด เจ้าหนี้จะทำเรื่องฟ้องร้องคดีแพ่ง ดำเนินคดีเพื่อให้ลูกหนี้ชำระหนี้คืน
- เกิดการฟ้องล้มละลาย หากถูกฟ้องร้องต่อลูกหนี้ดำเนินคดีแพ่ง ตามกระบวนการ ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้และหนี้นั้นมีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาท อาจถูกฟ้องล้มละลาย
การผิดนัดชำระหนี้ ส่งผลกระทบอะไรบ้างต่อตัวเรา และมีวิธีแก้หนี้ยังไงดี โดยมีแนวทางการบริหารจัดการหนี้ เพื่อไม่ให้กับมาเกิดการผิดนัดชำระหนี้อีกครั้ง โดยสามารถร้องขอจากเจ้าหนี้เป็นอะไรบ้าง มาดูกัน
- ขอเจ้าหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ย หากได้รับผลกระทบแบบสั้น ๆ เช่น หากตกงานหรือโดนพักงาน ประมาณ 6–12 เดือน และต่อมาสามารถหางานทำหรือได้เข้าทำงานได้ตามปกติ อาจจะขอร้องและยื่นเอกสารขอลดอัตราดอกเบี้ยต่อเจ้าหนี้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อให้ภาระหนี้ที่ต้องจ่ายลดลง โดยทำให้ค่างวดต่อเดือนลดลง ก็ทำให้เราสามารถเดินต่อไปได้
- ขอเจ้าหนี้ ยืดระยะเวลาการชำระหนี้ หากเราอยู่ในช่วงเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ รายได้ลดลง หรือถูกลดเงินเดือน ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้แบบเดิม ก็อาจจะทำเรื่องร้องขอต่อเจ้าหนี้เพื่อขอขยายเวลาการชำระหนี้ แต่การขยายเวลาก็จะทำให้เราเป็นหนี้ยาวขึ้น รายจ่ายหนี้ลดลง ค่างวดลดลง แต่ดอกเบี้ยที่ถูกทบต้น ทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
- ขอเจ้าหนี้ รีไฟแนนซ์ หากเราทำเรื่องขอสินเชื่อกับเจ้าหนี้ใหม่ และเมื่อสำรวจตนเองแล้ว เพื่อลดอัตราดอกเบี้ย และยืดระยะเวลา และอาจจะมีส่วนต่างเหลือบ้าง ในการบริหารเงินให้มีสภาพคล่อง แต่ต้องคำนวนในเรื่องการประเมิน และค่าธรรมเนียมต่างๆ ทำให้เราการลดภาระหนี้ได้
- ขอเจ้าหนี้ เปลี่ยนประเภทหนี้ จากหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยแพงมาเป็นหนี้ประเภทที่จ่ายดอกเบี้ยถูกลง เช่น การปรับโครงสร้างหนี้บัตรเครดิตมาเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลธรรมดา เพื่อให้ลูกหนี้นำเงินก้อนไปปิดหนี้บัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง แล้วมาผ่อนชำระผ่านสินเชื่อส่วนบุคคลแต่ห้ามผิดนัดเพราะดอกเบี้ยปรับสินเชื่อส่วนบุคคลสูงถึง 25%ต่อปี
- ขอเจ้าหนี้ ปิดหนี้ด้วยเงินก้อน เมื่อเราพยายามหาเงินก้อน ขอร้องกับเจ้าหนี้เพื่อขอส่วนลด เพื่อพิจารณากำหนดระยะเวลาชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นได้
การผิดนัดชำระหนี้เพียงครั้งเดียวหรือมากกว่านั้น อาจส่งผลกระทบต่อประวัติทางการเงิน และผลทางกฎหมาย ดังนั้นหากประเมินแล้วว่าเรากำลังมีความเสี่ยงที่จะจ่ายหนี้ไม่ไหว ให้รีบโดยด่วนในการติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อความปลอดภัยทางการเงินของเรา
https://www.ncb.co.th/fin-knowledge/what-happen-miss-pay-debt/ วันที่สืบค้น 15 ต.ค.2567
By
preeyapond